เพื่อไทย ซัด คสช. ยึดอำนาจ 2 ปีเหลวไม่เป็นท่า ชี้ผิดสัญญา "ขอเวลาอีกไม่นาน"
เพื่อไทยประเมินสถานการณ์ 2 ปี คสช. ยึดอำนาจ ชี้ล้มเหลวทุกด้าน ซัดผิดสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญหวังสืบทอดอำนาจ ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงจนต่างชาติออกมาวิจารณ์ยับ เดินนโยบายเศรษฐกิจผิดพลาด ประชาชนยากจนแร้นแค้น จี้รัฐบาลคืนประชาธิปไตยโดยเร็ว
วันนี้ (26 พฤษภาคม 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยได้ออกแถลงการณ์ประเมินสถานการณ์ประเทศไทย ครบรอบ 2 ปีการยึดอำนาจของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยมีรายละเอียดดังนี้ ตามที่ คสช. ได้ยึดอำนาจการปกครองประเทศไปจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบ ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยใช้ข้ออ้างการยึดอำนาจดังกล่าวว่า กระทำไปเพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมือง สร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคม และสร้างประชาธิปไตยที่ยั่งยืนและเหมาะสมกับประเทศไทย โดยได้ให้สัญญาว่าจะปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและอื่น ๆ และจะเร่งคืนประชาธิปไตยแก่สังคมไทยในไม่ช้า และยังได้ย้ำกับประชาชนในหลายโอกาสและหลายช่องทางว่า "เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน"
ณ บัดนี้ ครบรอบ 2 ปี สิ่งที่ คสช. เคยใช้เป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจ และที่ได้เคยสัญญาไว้กับพี่น้องประชาชน กลับไม่ได้รับการปฏิบัติ ที่สำคัญประเทศกลับตกต่ำอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน และยิ่งถูกต่างชาติต่อต้าน
พรรคเพื่อไทยจึงขอสรุปสถานการณ์ในด้านต่าง ๆ หลังครบรอบ 2 ปีดังนี้
1. ประชาธิปไตยล้มเหลว รัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ และการทำประชามติที่มัดมือประชาชน
2. การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ทวีความรุนแรง จนถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนานาประเทศ อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
3. สังคมขาดความปรองดอง มีความแตกแยกอย่างรุนแรง และการปฏิรูปที่เป็นเพียงข้ออ้าง
4. นโยบายเศรษฐกิจผิดพลาด เศรษฐกิจฝืดเคืองในทุกมิติ ประชาชนยากจนแร้นแค้น
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเห็นว่า สภาพการณ์ด้านต่าง ๆ ของประเทศกำลังเสื่อมถอย จนอาจเข้าขั้นวิกฤตได้ เหตุผลหลักของความล้มเหลวดังกล่าวคือ ความไม่เป็นประชาธิปไตยอันเป็นที่ยอมรับของสากล การขาดศักยภาพในการแก้ไขปัญหาของประเทศ การขาดความจริงใจและการมุ่งแต่รักษาอำนาจของตน ความอคติและความต้องการทำลายฝ่ายตรงข้าม การขาดวิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศ เป็นต้น พรรคเพื่อไทยใคร่ขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจในปัจจุบันได้ตระหนักถึงวิกฤตของ ประเทศครั้งนี้ โดยต้องเร่งแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชน แทนการเป็นคู่ขัดแย้ง และต้องเร่งคืนประชาธิปไตยที่เป็นสากลให้แก่สังคมไทยโดยเร็ว